วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เนื้อหา เรื่องทัศนธาตุ



เนื้อหา เรื่องทัศนธาตุ











ทัศนธาตุ (Visual Elements) ในทางทัศนศิลป์ หมายถึง ส่วนประกอบของศิลปะที่มองเห็นได้ ประกอบไปด้วย

1. จุด (Dot) หมายถึง รอยหรือแต้มที่มีลักษณะกลม ๆ ปรากฎที่พื้นผิว ซึ่งเกิดจากการจิ้ม กด กระแทก ด้วยวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ดินสอ ปากกา พู่กัน และวัสดุปลายแหลมทุกชนิด
จุด เป็นต้นกำเนิดของเส้น รูปร่าง รูปทรง แสงเงา พื้นผิว ฯลฯ เช่น นำจุดมาวางเรียงต่อกันจะเกิดเป็นเส้น และการนำจุดมาวาง


ให้เหมาะสม ก็จะเกิดเป็นรูปร่าง รูปทรง และลักษณะผิวได้

2. เส้น (Line) เป็นสิ่งที่มีผลต่อการรับรู้ เพราะทำให้เกิดความรู้สึกต่ออารมณ์และจิตใจของมนุษย์ เส้นเป็นพื้นฐานสำคัญของศิลปะ
ทุกแขนง ใช้ร่างภาพเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่เห็นและสิ่งที่คิดจินตนาการให้ปรากฎเป็นรูปภาพ
เส้น (Line) หมายถึง การนำจุดหลาย ๆ จุดมาเรียงต่อกันไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเป็นทางยาว หรือสิ่งที่เกิดจากการขูด ขีด
เขียน ลาก ให้เกิดเป็นริ้วรอย
- เส้นนอน ให้ความรู้สึกกว้างขวาง เงียบสงบ นิ่ง ราบเรียบ ผ่อนคลายสายตา
- เส้นตั้ง ให้ความรู้สึกสูงสง่า มั่นคง แข็งแรง รุ่งเรือง
- เส้นเฉียง ให้ความรู้สึกไม่มั่นคง เคลื่อนไหว รวดเร็ว แปรปรวน
- เส้นโค้ง ให้ความรู้สึกอ่อนไหว สุภาพอ่อนโยน สบาย นุ่มนวล เย้ายวน
- เส้นโค้งก้นหอย ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว การคลี่คลาย ขยายตัว มึนงง
- เส้นซิกแซกหรือเส้นฟันปลา ให้ความรู้สึกรุนแรง กระแทกเป็นห้วง ๆ ตื่นเต้น สับสนวุ่นวาย และการขัดแย้ง
- เส้นประ ให้ความรู้สึกไม่ต่อเนื่อง ไม่มั่นคง ไม่แน่นอน
เส้นกับความรู้สึกที่กล่าวมานี้เป็นเพียงแนวทางหนึ่ง ไม่ใช่ความรู้สึกตายตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ร่วมกับส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น เส้นโค้งคว่ำลง ถ้านำไปเขียนเป็นภาพปากในใบหน้าการ์ตูนรูปคน ก็จะให้ความรู้สึกเศร้า ผิดหวัง เสียใจ แต่ถ้าเป็นเส้นโค้งหงายขึ้น ก็จะให้ความรู้สึกอารมณ์ดี เป็นต้น

3. รูปร่างและรูปทรง รูปร่าง (Shape) หมายถึง เส้นรอบนอกทางกายภาพของวัตถุ สิ่งของเครื่องใช้ คน สัตว์ และ พืช มีลักษณะเป็น 2 มิติ มีความกว้าง และความยาว
รูปร่าง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
- รูปร่างธรรมชาติ (Natural Shape) หมายถึง รูปร่างที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น คน สัตว์ และพืช เป็นต้น
- รูปร่างเรขาคณิต (Geometrical Shape) หมายถึง รูปร่างที่มนุษย์สร้างขึ้นมีโครงสร้างแน่นอน เช่น รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม และรูปวงกลม เป็นต้น
- รูปร่างอิสระ (Free Shape) หมายถึง รูปร่างที่เกิดขึ้นตามความต้องการของผู้สร้างสรรค์ ให้ความรู้สึกที่เป็นเสรี ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอนของตัวเอง เป็นไปตามอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม เช่น รูปร่างของหยดน้ำ เมฆ และควัน เป็นต้น
รูปทรง (Form) หมายถึง โครงสร้างทั้งหมดของวัตถุที่ปรากฎแก่สายตาในลักษณะ 3 มิติ คือมีทั้งส่วนกว้าง ส่วนยาว ส่วนหนา
หรือลึก คือ จะให้ความรู้สึกเป็นแท่ง มีเนื้อที่ภายใน มีปริมาตร และมีน้ำหนัก

4. น้ำหนักอ่อน-แก่ (Value) หมายถึง จำนวนความเข้ม ความอ่อนของสีต่าง ๆ และแสงเงาตามที่ประสาทตารับรู้ เมื่อเทียบกับน้ำหนักของสีขาว-ดำ ความอ่อนแก่ของแสงเงาทำให้เกิดมิติ เกิดระยะใกล้ไกลและสัมพันธ์กับเรื่องสีโดยตรง

5. สี (Colour) หมายถึง สิ่งที่ปรากฎอยู่ทั่วไปรอบ ๆ ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นสีที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติ หรือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
สีทำให้เกิดความรู้สึกแตกต่างมากมาย เช่น ทำให้รู้สึกสดใส ร่าเริง ตื่นเต้น หม่นหมอง หรือเศร้าซึมได้ เป็นต้น[img]http://archive-pic.wunjun.com/2012/06/29/11/boardmaree-2012-06-29-1340943279-160650282579028602.gif[/img]
สีและการนำไปใช้
5.1 วรรณะของสี (Tone) จากวงจรสีธรรมชาติ ในทางศิลปะได้มีการแบ่งวรรณะของสีออกเป็น 2 วรรณะ คือ
- สีวรรณะร้อน ได้แก่สีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นหรือร้อน เช่น สีเหลือง ส้มเหลือง ส้ม ส้มแดง แดง ม่วงแดง เป็นต้น
- สีวรรณะเย็น ได้แก่ สีที่ให้ความรู้สึกเย็น สงบ สบาย เช่น สีเขียว เขียวเหลือง เขียวน้ำเงิน น้ำเงิน ม่วงน้ำเงิน ม่วง เป็นต้น
5.2 ค่าของสี (Value of colour) หมายถึง สีใดสีหนึ่งทำให้ค่อย ๆ จางลงจนขาวหรือสว่างและทำให้ค่อย ๆ เข้มขึ้นจนมืด
5.3 สีเอกรงค์ (Monochrome) หมายถึง สีที่แสดงอิทธิพลเด่นชัดออกมาเพียงสีเดียว หรือใช้เพียงสีเดียวในการเขียนภาพ โดยให้ค่าของสีอ่อน กลาง แก่ คล้ายกับภาพถ่าย ขาว ดำ
5.4 สีส่วนรวม (Tonality) หมายถึง สีใดสีหนึ่งที่ให้อิทธิพลเหนือสีอื่นทั้งหมด เช่น การเขียนภาพทิวทัศน์ ปรากฎสีส่วนรวมเป็นสีเขียว สีน้ำเงิน เป็นต้น
5.5 สีที่ปรากฎเด่น (Intensity)
5.6 สีตรงข้ามกันหรือสีตัดกัน (Contrast) หมายถึง สีที่อยู่ตรงกันข้ามในวงจรสีธรรมชาติ เช่น สีแดงกับสีเขียว สีน้ำเงินกับสีส้ม สีม่วงกับสีเหลือง

6. บริเวณว่าง (Space) หมายถึง บริเวณที่เป็นความว่างไม่ใช่ส่วนที่เป็นรูปทรงหรือเนื้อหาาในกาารจัดองค์ประกอบใดก็ตาม ถ้าปล่อยให้มีพื้นที่ว่างมากและให้มีรูปทรงน้อย การจัดนั้นจะให้ความรู้สึกอ้างอ้าง โดดเดี่ยว

7. พื้นผิว (Texture) หมายถึง หมายถึง ลักษณะของบริเวณผิวหน้าของสิ่งต่าง ๆ ที่เมื่อสัมผัสแล้วสามารถ รับรู้ได้ ว่ามีลักษณะอย่างไร คือรู้ว่า หยาบ ขรุขระ เรียบ มัน ด้าน เนียน สาก เป็นต้น ลักษณะที่สัมผัสได้ของพื้นผิว มี 2 ประเภท คือ


1. พื้นผิวที่สัมผัสได้ด้วยมือ หรือกายสัมผัส เป็นลักษณะพื้นผิวที่เป็นอยู่จริง ๆ ของผิวหน้าของวัสดุนั้น ๆ ซึ่งสามารถสัมผัสได้จากงานประติมากรรม งานสถาปัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ


2. พื้นผิวที่สัมผัสได้ด้วยสายตา จากการมองเห็นแต่ไม่ใช่ลักษณะที่แท้จริงของผิววัสดุนั้น ๆ เช่น การวาดภาพก้อนหินบนกระดาษ จะให้ความรู้สึกเป็นก้อนหินแต่ มือสัมผัสเป็นกระดาษ หรือใช้กระดาษพิมพ์ลายไม้ หรือลายหินอ่อน เพื่อปะ ทับ บนผิวหน้าของสิ่งต่าง ๆ เป็นต้น ลักษณะเช่นนี้ถือว่า เป็นการสร้างพื้นผิวลวงตาให้สัมผัสได้ด้วยการมองเห็นเท่านั้น


พื้นผิวลักษณะต่าง ๆ จะให้ความรู้สึกต่องานศิลปะที่แตกต่างกัน พื้นผิวหยาบจะให้ความรู้สึกกระตุ้นประสาท หนักแน่น มั่นคง แข็งแรง ถาวร ในขณะที่ผิวเรียบจะให้ความรู้สึกเบา สบาย การใช้ลักษณะของพื้นผิวที่แตกต่างกัน เห็นได้ชัดเจนจากงานประติมากรรม และมากที่สุดในงานสถาปัตยกรรมซึ่งมีการรวมเอาลักษณะต่าง ๆ กันของพื้นผิววัสดุหลาย ๆ อย่าง เช่น อิฐ ไม้ โลหะ กระจก คอนกรีต หินซึ่งมีความขัดแย้งกันแต่สถาปนิกได้นำมาผสมกลมกลืนได้อย่างเหมาะสม ลงตัวจนเกิดความสวยงาม












วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Course syllabus


หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ทัศนธาตุกับงานศิลป์                                       ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
เรื่อง ทัศนธาตุ                                                                            เวลา 6 ชั่วโมง

สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด    
ทัศนธาตุเป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งต่างๆในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และงานทัศนศิลป์
ตัวชี้วัด / จุดประสงค์การเรียนรู้      
ตัวชี้วัด
ศ 1.1  ป.4/3  จำแนกทัศนธาตุของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และงานทัศนศิลป์ โดยเน้นเรื่อง เส้น สี รูปร่าง รูปทรง พื้นผิว และพื้นที่ว่าง           
จุดประสงค์การเรียนรู้
 - จำแนกทัศนธาตุของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และงานทัศนศิลป์ได้
 สาระการเรียนรู้ 
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1. ทัศนธาตุกับงานศิลป์
    - เส้น
    - รูปร่าง
    - รูปทรง
    - สี
    - พื้นผิว
 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 
ความสามารถในการสื่อสารความสามารถในการคิด
 - ทักษะการคิดวิเคราะห์
 - ทักษะการคิดสร้างสรรค์
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
 - กระบวนการปฏิบัติ
 - กระบวนการทำงานกลุ่ม
 คุณลักษณะอันพึงประสงค์          
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน
 กิจกรรมการเรียนรู้        
(วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคร่วมกันคิด)
ชั่วโมงที่ 1-2
1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ
2. ครูให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน แล้วสังเกตลักษณะของสิ่งต่างๆ ในภาพ  จากนั้นบอกว่าเห็นอะไรในภาพบ้าง
3. นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม โดยมีแนวตอบ คือ  เห็นเส้นโค้ง  เส้นตรง  เส้นหยัก  รูปสามเหลี่ยม  รูปวงกลม  สีส้ม  สีแดง  สีฟ้า  และอื่นๆ  ตามความคิดของนักเรียน
4. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง ทัศนธาตุกับงานศิลป์ หัวข้อ  เส้น  จากหนังสือเรียน  แล้วครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียน  โดยให้นักเรียนจับสลากลักษณะเส้นต่างๆ คนละ 1 อย่าง  จากนั้นให้นักเรียนยกตัวอย่าง  เช่น 
    - เส้นตรง  - ขอบสมุด  ตึก   
    - เส้นโค้ง  -  ผลส้ม  คลื่นน้ำในทะเล  เป็นต้น 
5. ครูให้นักเรียนวาดเส้นต่างๆ ที่สังเกตเห็นจากสิ่งรอบตัวลงในกระดาษวาดเขียน พร้อมทั้งระบายสีให้สวยงาม
6. ครูให้นักเรียนแลกเปลี่ยนผลงานกันดู  เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง 
7. ครูสนทนาซักถามนักเรียนว่า ลักษณะของเส้น ทำให้เกิดความรู้สึกต่างๆ จริงหรือไม่
8. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายในกลุ่มว่า ลักษณะของเส้น ทำให้เกิดความรู้สึกได้หรือไม่ พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ
9. ครูให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการอภิปรายหน้าชั้นเรียน
10. ครูและนักเรียนร่วมกันประมวลผลจากการอภิปรายกลุ่ม เพื่อสรุปความรู้เรื่อง เส้นและความรู้สึกที่เกิดจากเส้น
11. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 2.1 เรื่องเส้น โดยให้ติดภาพที่แสดงเส้นแบบต่างๆ ลงในกรอบ แล้วบันทึกข้อมูล
12. เมื่อทำเสร็จแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียน ประมาณ 4-5 คน ออกมานำเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน

ชั่วโมงที่ 3
1. ครูให้นักเรียนจับคู่กัน  จากนั้นให้แต่ละคู่สำรวจบริเวณโรงเรียน  แล้ววาดรูปร่างและรูปทรงของสิ่งต่างๆ ในโรงเรียนมา 1 ชนิด  พร้อมทั้งระบุชื่อและที่อยู่ของสิ่งของนั้น  เช่น  แจกันในห้อง ป.4/2   ตุ๊กตาที่ห้อง อ.1/1 โดยครูให้เวลาทำกิจกรรม 15 นาที
2. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน    
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรามีลักษณะรูปร่างและรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป
4. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง ทัศนธาตุกับงานศิลป์ หัวข้อ รูปร่างและรูปทรง จากหนังสือเรียน 
5. ครูสนทนาซักถามนักเรียนว่า สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวชนิดใดบ้างมีลักษณะเป็นรูปร่าง เพราะเหตุใด ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น 
6. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 2.2 เรื่อง รูปทรง โดยดูภาพที่กำหนดให้ แล้วเขียนบอกว่า ภาพใดมีรูปทรงอย่างไร

ชั่วโมงที่ 4
1. ครูให้นักเรียนนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน แล้วครูและเพื่อนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครูและนักเรียนร่วมกันคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุด 3 อันดับ แล้วนำไปจัดป้ายนิเทศ
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสีของสิ่งต่างๆ รอบตัว  โดยครูใช้คำถามต่อไปนี้
    - หากคิดถึงสีเหลือง นักเรียนคิดถึงผลไม้อะไรบ้าง
    - หากคิดถึงสิ่งที่มีลวดลายนักเรียนคิดถึงอะไรบ้าง
    - สีรถยนต์ที่นักเรียนชอบคือสีใด
4. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า  ในธรรมชาติรอบตัวประกอบด้วยสีสันมากมาย ทั้งสีจากธรรมชาติ และสีที่มนุษย์สร้างขึ้น
5. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 2.3 เรื่อง สี โดยให้วาดภาพสิ่งของหรือทิวทัศน์ในบริเวณโรงเรียน  โดยระบายสีตามความเป็นจริงแล้วออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน

ชั่วโมงที่ 5
1. ครูให้นักเรียนนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน  ครูและนักเรียนร่วมกันคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุด 3  อันดับ  นำไปจัดป้ายนิเทศ
2. ครูนำสิ่งของต่างๆ ได้แก่  ฟองน้ำ ไข่ไก่  กระดาษทราย  สับปะรด (หรืออื่นๆ ตามความเหมาะสม) ใส่ไว้ในกล่องทึบ  จากนั้นให้นักเรียนลองสัมผัส  แล้วถามนักเรียนว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องน่าจะเป็นอะไรบ้าง เพราะเหตุใด
3. ครูสรุปเพิ่มเติมว่าสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรามีทั้งพื้นผิวเรียบและพื้นผิวขรุขระ 
4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน  ให้แต่ละกลุ่มสำรวจสิ่งแวดล้อมในห้องเรียน  แล้วยกตัวอย่างสิ่งของมา 5 ชนิด  แล้วบอกลักษณะพื้นผิวของสิ่งนั้นๆ  และวิธีการสัมผัสที่ทำให้รู้ว่าสิ่งนั้นมีพื้นผิวเป็นอย่างไร
5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการสำรวจหน้าชั้นเรียน  ครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า พื้นผิวของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  มีลักษณะหลากหลายแบบ เช่น พื้นผิวเรียบ  พื้นผิวขรุขระ  พื้นผิวอ่อนนุ่ม

ชั่วโมงที่ 6
1. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวกับพื้นที่ว่าง จากหนังสือเรียน 
2. ครูสนทนาซักถามนักเรียนว่า พื้นที่ว่างมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหนในงานศิลปะ เพราะเหตุใด ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความสำคัญของพื้นที่ว่างที่มีต่อผลงานศิลปะ
4. ครูสนทนาซักถามนักเรียนว่า ทัศนธาตุที่เราสังเกตเห็นนั้น  สามารถนำไปประยุกต์ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้อย่างไรบ้าง
5. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 2.4 เรื่อง พื้นที่ว่าง โดยให้วาดภาพที่ต้องการลงในกรอบ แล้วระบายด้วยดินสอสีให้สวยงาม โดยจัดภาพให้มีพื้นที่ว่างเหมาะสม จากนั้นนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนให้เพื่อนแสดงความคิดเห็น
6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ทัศนธาตุ
7. ครูให้นักเรียนทำชิ้นงานที่ 1.2 เรื่อง ทัศนธาตุ โดยให้หารูปภาพสิ่งต่างๆ ที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน มาติดลงในกรอบ แล้วเขียนบรรยายถึงทัศนธาตุที่เห็น

การวัดผลและประเมินผล 
 วิธีการ
เครื่องมือ
เกณฑ์

สื่อ / แหล่งการเรียนรู้      
สื่อการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน ทัศนศิลป์ ป.4
2. สิ่งของที่ใช้ใส่ในกล่องทึบ  เช่น ไข่ไก่ สับปะรด  ฟองน้ำ   กระดาษทราย เป็นต้น
3. ใบงานที่ 2.1  เรื่อง เส้น
4. ใบงานที่ 2.2  เรื่อง รูปทรง
5. ใบงานที่ 2.3 เรื่อง สี
6. ใบงานที่ 2.4 เรื่อง พื้นที่ว่าง

แหล่งการเรียนรู้
1. ห้องสมุด
2. สิ่งแวดล้อมรอบตัว
3. บริเวณรอบโรงเรียน


ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด

ใบงาน













แนะนำตัวผู้สอน


ประวัติส่วนตัว

ชื่อ-สกุล                     นางสาว วรวรรณ  สุธาชี

ชื่อเล่น                        ปลา

โทร                             084-527-8575

E-mail                         woravan.pla@gmail.com

ที่อยู่                            130 ถ.ฉิมพลี3 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน  กทม.10170

จบการศึกษาจาก      มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง
                                    ระดับปริญญาตรี  คณะศิลปกรรม สาขาเครื่องปั้นดินเผา(เซรามิก)

ปัจจุบัน                       สอนวิชาศิลปะ (ท้ศนศิลป์)  ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่1-6
                                    โรงเรียนกสิณธรอาคาเดมี่  www.kasintorn.com